วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ผีถ้วยแก้ว…หรือเปล่า?

      ตอนผมอยู่ ป.3 ขอยํ้านะครับ ว่า ป.3 (เเละขอความกรุณาทุกท่านช่วยจํา เพราะผมขี้เกียจเตือนเดี๋ยวคนขี้เกียจอ่าน) ก่อนหน้านั้นผมกลัวผีอย่างไร้สาเหตุเหมือนเด็กทั่วๆไป มาถึงช่วงดังกล่าว อาการนี้ของผมเริ่มซาๆไปคล้ายกับเด็กที่ไม่กลัวผีเเล้ว ตอนนั้นผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังแถววัดธาตุทองในย่านเอกมัยซึ่ง คนกรุงเทพฯคงรู้จักกันดี  ตอนพักเที่ยงของวันหนึ่งมีเพื่อนสองคนเอากระดาษมาเขียนตัวพยัญชนะ สระ จำไม่ได้ว่ามีวรรณยุกต์รึเปล่า เเต่วาดบ้านพร้อมเส้นทางเดิน ทุกคนต่างก็เข้าไปมุงดูยกเว้นเเต่ผมซึ่งมีความรู้สึกว่าถ้าทําอะไรเเตกต่างเเล้วคงเท่ห์อย่างบอกไม่ถูก สืบวงศ์กับวสันต์เป็นชื่อของสองคนนั้น ไม่นานนักอีตาสืบวงศ์ก็เดินมาหาผมเพื่อขอยืมฝากระติกนํ้าจากผมซึ่งมีน้อยคนนักที่จะพกกระติกนํ้าไปโรงเรียน นั่นเองที่ทําให้ผมตามเข้าไปมุงดูได้โดยไม่เสียฟอร์ม วสันต์ยืมพระจากเพื่อนข้างๆมา เเต่ไอ้สืบวงศ์บอกว่าใช้ไม่ได้พร้อมกับขอดูคนที่ห้อยพระเพื่อจะขอยืมสุดท้ายก็มาลงที่ผม ซึ่งขณะนั้นผมห้อยพระประจําวันเกิด เป็นพระอุ้มบาตรประจําวันพุธ พระอาจารย์ทั้งสองเริ่มทําพิธีท่ามกลางเหล่าเยาวชนผู้อยากรู้อยากเห็นทั้งหลาย วสันต์นําพระของผมไปอมขณะที่หลับตาชี้นิ้วไปบนเเผ่นกระดาษที่เล่ามาข้างต้นซึ่งมีฝากระติกของผมที่ใส่นํ้าจนเต็มตั้งทับไว้อีกที โดยที่มีไอ้สืบวงศ์เป็นพี่เลี้ยง ท่องไปท่องมาจนจบสองคนนั้นก็เถียงอะไรกันไม่รู้ วสันต์กินนํ้าเเก้วนั้นตามที่สืบวงศ์บอกแล้วก็ยังเถียงกันไม่เลิกจนเพื่อนๆเริ่มเบื่อแล้วเเยกย้ายกันไป
        วันต่อมาเวลาพักเที่ยงอย่างเคย มันทั้งคู่ก็ทําอย่างเคยรวมถึงยืมอุปกรณ์จากผมอย่างเคย ...เเต่วันนี้ไม่เหมือนเมื่อวาน... ระหว่างที่วสันต์อมพระของผมพร้อมกับหลับตาท่องมนต์และชี้นิ้วไปบนกระดาษเเผ่นนั้น สิ่งที่ทุกคนเห็นเหมือนกันก็คือนํ้าในฝากระติกของผมค่อยๆยุบลงไปทีละส่วน ทีละส่วน   ครับ...   วงแตก ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องเรียนอีกเเล้วนอกจากไอ้สองคนนั้น….  และจากเหตุการณ์วันนั้น ก็กลับมาทําให้ผมกลัวผีเหมือนเดิมเรื่อยมา